ช่างเป็นวันที่ยาวนานอีกวันหนึ่งจริง ๆ
วันนี้เราฉลองครบพรรษาที่ ๒๐ ของอาจารย์ของพวกเรา ท่านภิกษุณีธัมมนันทา หรือเป็นเพียงเหตุการณ์ทางการที่เป็นหมายของสถานภาพของ “มหาเถรี” ซึ่งจริง ๆ แล้ว แปลว่าอะไร ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจอย่างถ่องแท้
เหตุการณ์เริ่มจากอาจารย์ของฉันอธิบายความหมายของภาพวาดของภิกษุรูปหนึ่งกับต้นโพธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ฟังและผู้ที่สัญจรผ่านไปมางุนงง ฉันได้เดินผ่านภาพนี้วัตรฯ วันก่อนขณะที่จิตรกรกำลังวาดเสร็จ ฉันถามเขาว่า เป็นภาพเกี่ยวกับอะไร คำตอบที่ได้ฟังเหมือนการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นความฝันของภิกษุรูปหนึ่งเกี่ยวกับต้นโพธิ์ที่ตายไปแล้ว ๑๐๐๐ ปี กลับฟื้นคืนชีพ ซึ่งเชื่อมโยงกับการรื้อฟื้นภิกษุณีเถรวาทในประเทศไทย เป็นไปได้อย่างไรว่า ความฝันของคน ๆ หนึ่งจะประกาศปรากฎการณ์
ด้วยเหตุนี้ ความสนใจของฉัน จึงไม่ใช่เป็นเรื่องนิทานก่อนนอน แต่วิธีการเล่าเรื่องบนเวที หากอาจารย์ของพวกเราไม่ได้ห่มจีวร ผู้คนอาจจะเข้าใจผิดว่าท่านเป็นคนเล่นละครที่กรำเวที ไม่ใช่ทุกวันหรือไม่ใช่ทุกวัด ที่จะหาอาจารย์ที่ก้าวออกมายืนบนเวทีและพูดราวกับท่านกำลังร่ายมนต์ใส่ผู้ฟัง ด้วยน้ำเสียง ท่วงทำนอง และอากัปกิริยาของท่าน ทำให้ฉันรู้สึกว่าอาจารย์ของฉันไม่ได้กำลังพูดถึงความฝัน ท่านกำลังเล่าความจริง
สู่ทศวรรษที่ ๓ ภิกษุณีในประเทศไทย ใช่แล้ว สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้มาก แค่เพียงวันนี้ เราเห็นผู้ชาย ๓ คน ปฏิญาณที่จะสนับสนุนการประดิษฐานภิกษุณีในประเทศนี้ ได้แก่ พระภิกษุสรณังกรมหาเถระ ประมุขตุลาการคณะสงฆ์ประเทศมาเลเซีย (มาจากศรีลังกา) พระราชวิสุทธิประชานาถ รู้จักกันดีในนามนักบุญแห่งพระบาทน้ำพุ ได้รับการการยกย่องอย่างกว้างขวางจากงานการกุศลของท่านมายาวนานกว่า ๓๐ ปี และพระครู ดร.สุธรรมนาถ เจ้าอาวาสวัดปลักไม้ลาย ภิกษุที่อยู่ในภาพวาดของความฝันนั้น ท่านเป็นพันธมิตรของวัตรฯ เราและเป็นภิกษุผู้ให้โอวาทแก่ภิกษุณีมาเป็นเวลาหลายปี เราได้รับการให้คำมั่นสัญญาจากสมาคมพุทธบริษัทใต้ร่มบรมโพธิสมภารที่จะรวมเอาภิกษุณีไว้ในทุกกิจกรรมที่มีภิกษุ หลายสิ่งดูเหมือนจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดี แม้กระนั้นฉันก็จะแค่จะรอดูว่า คำพูดจะนำไปสู่การกระทำหรือไม่ ก่อนที่ฉันจะเชื่อข่าวดีทั้งหมดนี้